5 เคล็ดวิธีฝึกตนเองให้คิดบวกเป็นรู้อย่างนี้ปลูกข้าวนแล้ว

[Cindy700]

เนื่องจากว่าชีวิตไม่ได้ง่ายในทุกๆวันมีปัญหามากเข้ามาให้แก้ไขความเ ค รี ย ด สะสมจากหลายๆเรื่อง

ทำให้ท่านอาจเป็นคนคิดมากวิ ต ก ตื่นตระหนกและสร้างกำแพงให้ตนเองจนถึงแปลงเป็นคนมองโลกในทางร้ า ย


ไปโดยไม่รู้ตัวในเมื่อเรารู้อย่ า งนี้แล้ว ว่าปัญหาบางอย่ า ง เราก็ไม่สามารถควบคุมได้อย่างนั้นก็ลองเปลี่ยน

มาเป็นหญิงคิดบวกมองโลกในแง่ดีกันเลยดีกว่าเนอะ

1. อย่ ามัวแต่โทษชะตาชีวิต

จำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างทุกอย่ า งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่มีแหล่งที่มา มีเหตุและก็ผลอยู่ตลอดหากมัวแต่โทษโชคชะตา

คุณจะไม่มีวันหาทางปรับปรุง ได้แต่ว่าหากคุณมองว่าปัญหาหรือปัญหาที่พบเกิดเรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความฉาบฉวย

ของคุณเองหรือ มีต้นเหตุที่เกิดจากคนอื่นๆคุณจะมีเหตุผลคิดหาทางปรับแก้ไว้ปรับใช้ในคราวหน้า

2. อยู่กับปัจจุบันนี้อย่ ากลุ้มอกกลุ้มใจกับเรื่องที่ยังไม่เกิด

บ่อยมากที่คุณชอบนอยไปกับเรื่องที่ยังไม่เกิด คิดวนไปวนมาว่าสิ่งที่กำลังจะกำเนิดควรมีแม้กระนั้นเรื่องห่วยๆ

ทั้งๆที่ยังไม่มีเรื่องใดใดเกิดขึ้นทั้งนั้นการอยู่กับปัจจุบันนี้ก็เลยต้องอย่ า งมากคุณทำเดี๋ยวนี้


ให้ดีให้สุดกำลังแล้วผลที่ตามมาก็จะดีเอง แล้วก็ที่สำคัญต้องมีแผนสำรองอยู่ทุกคราว จะได้อุ่นใจว่า

ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจะแก้กันอย่างไรได้บ้าง

3. ฝึกฝนให้เป็นคนยื ด หยุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ

อะไรที่ตึงเหลือเกิน ไม่ใช่เรื่องดีควรจะฝึกฝนเป็นคนที่รู้จักยกโทษรวมทั้ง ยื ด หยุ่นบ้างลดความหวัง

และเผื่อใจให้เป็นบนโลกนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนทุกอย่ า งมีความเคลื่อนไหวได้เสมอ ผู้ที่ปรับตัวได้

จะเป็นผู้ที่เป็นสุขเยอะที่สุด

4. หันมาดูแลตนเอง

บ่อยมากที่คุณมัวแต่ใส่ใจคนอื่นๆโฟกัสทุกอย่ างที่ไม่ใช่ตนเองกระทั่งเกิดเป็นความเครียดสะสม

ลองหันมารักตนเอง ดูแลตัวเองให้เยอะขึ้นเรื่อยๆเริ่มจากบริหารร่างกายก่อนเลย ลองเปลี่ยนแปลงทรงผม


เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว หรือบางครั้งก็อาจจะหางานอดิเรกทำเพิ่มเติมอย่ า งเรียนภาษาเรียนทำของหวาน


สิ่งพวกนี้จะทำให้คุณรู้สึกมีความคุณค่าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆกว่าเดิมหลายเท่าเลยล่ะ

5. ยิ้มเข้าไว้สนุกสนานกับ เรื่องง่ายๆๆน้อยๆ

เป็นสุขกับเรื่องจิ๊บจ๊อยๆน้อยๆได้ คือจุดกำเนิดที่ดีสำหรับในการจะเป็น หญิงคิดบวกคุณจะเป็นสตรี

ที่ใครๆก็อย ากอยู่ใกล้อย ากคุยด้วย ด้วยเหตุว่าคุณมีพลังบวกในชีวิตเพียงแค่เปลี่ยนความคิด

ชีวิตคุณก็แปลงในทันที
คิดบวก
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13232/