5 วิธีแก้นิสัยอารมณ์เสียง่ายให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็นขึ้น

[Cindy700]

5 วิธีแก้นิสัยคนขีโกรธให้เปลี่ยนเป็นคนใจเย็น(กว่าเดิม)

1. ระงับคำบอกเล่ารวมทั้งพฤติกรรมในยามที่โกรธเป็นหากมีความรู้สึกว่า อารมณ์กำลังพล่าน


ให้สงบนิ่งไว้ จดจำไว้เสมอว่า...ความคิดใดๆก็ตามคำบอกเล่าอะไรก็แล้วแต่ความประพฤติใดๆก็ตามถ้ามีขึ้นในยามโก รธ


มักเป็นไปในทางทำลายรุ นแร งอาจหนำใจเดี๋ยวเดียว แต่ว่าในที่สุดจะไม่เป็นผลดี

ก ฏเหล็กเบื้องต้นที่จะต้องทำให้ได้เป็น...พวกเราจะไม่พูดหรือทำอะไรเด็ดข าดในย ามที่โกร ธ

รอให้ใจเย็นก่อน หายโก รธก่อนแล้วค่อยว่ากัน

2. พิจารณาโท ษของความโก รธและก็คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากความปรานีเป็นให้ย้อนคิดถึงชีวิตที่ผ่านมา

ว่าพวกเราเสียอะไรไปบ้างเพราะว่าความโก รธทำคนใดกันแน่เสียใจกี่คน ทำลายโอกาสไปเท่าไหร่

ทำลายความเกี่ยวเนื่องไปยังไงสิ่งเหล่านี้ให้ก้มมาคิดเสมอๆคิดซ้ำให้มากมายๆ


พิจารณาจนปัญญาสารภาพ หมดข้ออ้างอย ากปรับแต่งตนเองอย่างเต็มใจ


เพราะเชื่อมั่นแล้วว่า ความขุ่นเคืองไม่ใช่ของดีแม้กระนั้นเป็นสิ่งที่ทำลายความสำราญรวมทั้งความเจริญ

ทั้งยังของพวกเรา ผู้ที่พวกเรารัก และผู้ที่รักเราไม่มีใครได้อะไรเลยจากความโก รธ

ธรรมชาติของมนุษย์เราเกลียดชังให้คนใดกันแน่มาสั่งตราบที่พวกเรายังไม่ต กผลึ กยอมจำนนด้วยตนเองว่า

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องเปลี่ยนแปลงตนเองคนไหนกันแน่จะพูดใครจะบอกจะสอนก็ย ากยิ่งที่มนุษย์เราจะเปลี่ยน

เช่นนี้แล้ว พวกเราก็เลยจะต้องกระทำตนเป็นคุณครูของตัวเองเพื่ออบรมสั่งสอนตัวเองให้มองเห็นพิ ษภั ยของความโก รธเกลียดชังอารมณ์ทำลาย

3. สร้างความสุขเล็กๆน้อยๆให้คนอื่นๆจนถึงเป็นนิสัยเป็นให้รู้จักชื่นชอบ ให้กำลังใจผู้คนเสมอๆ

เมื่อทำให้เขาสุขสบายแล้วให้เรารู้จักเอาใจไปสัมผัสความรู้สึกนั้นเรียกว่า ให้ใจเราจับใจ

กับความรู้สึกที่เย็นใจอยู่ตลอดเราบางครั้งอาจจะลองเปรียบกันดูก็ได้ว่าอารมณ์รูปแบบนี้ กับอารมณ์ในยามที่โก รธ

แบบไหนดีมากยิ่งกว่ากันถ้าดวงใจพวกเราคุ้นกับความรู้สึกที่ดีมันจะเบาๆอิดหนาระอาใจความโมโหเกลียดชิ งชั งไปทีละเล็กทีละน้อย

ในข้อนี้เป็นการแ ก้กิเล สด้วยกุศ ลฝั่งตรงข้ามถ้าเกิดความโกรธเคืองเป็นด้านมืดในที่นี้ด้านสว่างก็คือความเมตตา

เราบางทีอาจขับไล่ความมืดดำมิได้แต่ว่าหากเราจุ ดไ ฟได้ ความมืดจะหายไปและความสว่างจะเข้ามาแทนที่

ภาษาธรรมเรียกสิ่งนี้ว่า การทวนกระแสกิเล สเป็นใช้ธรรมคู่ตรงข้ามมาจัดการกิเล สให้เบาบาง


4. ฝึกมองดูความรู้สึกด้วยใจที่เป็นกลางในข้อนี้คือธรรมะชั้นลึก เป็นการรุ่งเรืองสติ


คือเราฝึกหัดมองดูอารมณ์ต่างๆของพวกเราด้วยความจริงใจที่เป็นกลางเหมือนความนึกคิดความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา

ดีอกดีใจก็ไม่เข้าไป เสียใจก็ไม่เข้าไปคนชื่นชอบก็วางไว้ คนนินทาก็วางไว้ฝึกฝนให้มีความเห็นว่าอารมณ์ความนึกคิดพวกนี้

ถ้าดวงใจพวกเราเข้าไปยึดในที่สุดก็ไม่ดีทั้งนั้นเนื่องจากว่ายึดข้างหนึ่ง อีกข้างก็จะตามมาด้วยเหมือนในกำเหรียญเอาไว้ภายในมือ

ก็จะได้ทั้งยังหัวทั้งยังก้อยมาในครั้งเดียวรักสุขก็จะได้ทุ กข์เป็นของแถมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในข้อนี้แม้ฝึกฝนเป็นประจำเว้นเสียแต่ความโกรธเคืองแล้วยังช่วยกำจัดตัดทอนพลังความคิดด้านล บได้ทั้งปวง

ตัวอย่างเช่นความหม่นหมองความเดียวดายความเบื่อต่างๆจิตใจจะเป็นกลาง หนักแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ

5. รู้จักอยู่ รู้จักจุดอ่อนจุดแข็ งของตัวเองเป็นให้รู้จักพินิจตัวเองแม้เราโก รธคนไหนกันเป็นประจำ

เวลาอยู่ใกล้ก็ให้ระวังบางที กับคนบางคนให้สังเกตดูเถอะว่า เราก็โกรธเขา

โกรธคนๆนี้ กระทั่งเปลี่ยนเป็นความเคยชินเพียงแค่เห็นหน้ายังไม่ทันทำอะไร

จิตใจก็วูบๆไหวๆความอารมณ์เสียก็เริ่มเข้ามานี้ควรจะหลบหลีกการเผชิญหน้าทั้งนี้ในเรื่องที่เลี่ยงมิได้จริงๆ

ดังเช่นว่าเป็นคนภายในครอบครัว เป็นผัวภรรย าเป็นลูก เป็นเจ้านาย ลูกน้อง เพื่อนพ้อง อย่างงี้ก็ให้ชูเอาสิ่งที่เขาทำขั ดจิตใจเรา

มาเป็นสิ่งที่ใช้ในการฝึกฝนจิตใจของพวกเรา ฝึกอภั ยดีกว่าปล่อยใจของเราให้ต กต่ำไป

เพราะมัวแต่เถียงกับเขาให้เอาความขัดแย้ งนั้นมาบ่มเพาะความรัก เมตตาขอให้เราทราบไว้ว่า โดยมากแล้ว

ถ้าขัดแย้งแต่มีความสำคัญต้องอยู่ร่วมกันตัดกันไม่ข าด แย กกันไม่ข าดสิ่งนี้มักเกิดขึ้นจากมีบุญก ร ร ม

ชมรมด้วยกันมานานกลายเป็นแรงก ร ร มผูกพัน ผู กรั้งไม่ให้ไปไหนแบบนี้ยิ่งจำต้องรู้จักระวัง ยับยั้ง สำรวม

อย่าไปสร้างเวรให้กันและกันมากขึ้นการเป็นคนโกรธง่าย ไม่มีอะไรดีมีแต่ว่าเสียผลดี เสียทั้งสุขภาพเกี่ยวกับร่างกายใจ

ทำลายความเชื่อมโยง ทำลายหน้าที่การงานทำลายบารมีในตนแปลงเป็นผู้ที่สร้างความทุ กข์ให้คนอื่น

รวมทั้งตนเองก็หาความสุขได้ย าก5 ข้อนี้ ฝึกแรกๆจะทำเป็นย ากแต่ว่าขอให้อดทนฝึกหัดทำทุกข้ออย่างสม่ำเสมอ

สำคัญเป็นควรมีกำลังใจ และวินัยฝึกแรกๆอย่าปล่อยใจตามความคุ้นเคยของตนท้ายที่สุดแล้วเราจะต้องมีความเข้าใจว่า

การลดมานะอนัตตาของตนเองลดความขุ่นเคืองชิงชังของตนเรามิได้ทำเพื่อผู้ใดกันแต่ว่าพวกเราทำเพื่อยกฐานะจิตใจของตัวเอง

เพื่อความสำราญของเราเองจริงอยู่สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ทำกันได้ง่ายๆ แม้กระนั้นหากทำได้วันหนึ่ง รู้จะสัมผัสถึงความเบาใจของชีวิต

มีชีวิตที่ค่อยขึ้น สบายขึ้นถึงวันนั้นเราจะยินดี และรู้สึกขอบคุณมากตนเองรู้สึกยินดีว่า เราสามารถข้ามผ่านตัวตนเก่าๆ

ไปสู่ตัวตนใหม่ที่ดีมากยิ่งกว่าเดิมและก็สิ่งนี้คือการมอบความรักและความเมตตากรุณาให้ตัวเองอย่างแท้จริง...

โมโห
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12886/