ฐานรากลึก (Deep Foundation) เป็นโครงสร้างสำคัญในงานวิศวกรรมที่ช่วยเสริมความมั่นคงของส่วนประกอบในพื้นที่ที่ชั้นดินข้างบนไม่แข็งแรงเพียงพอสำหรับรองรับน้ำหนักทั้งผอง รากฐานลึกมีหลายชนิด ซึ่งแต่ละจำพวกมีคุณลักษณะ ข้อดี รวมทั้งข้อจำกัดเฉพาะตัว การเลือกโครงสร้างรองรับลึกที่เหมาะสมกับแผนการก่อสร้างจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยรวมทั้งคุณภาพขององค์ประกอบ เนื้อหานี้จะพาคุณทำความรู้จักกับชนิดของฐานรากลึก พร้อมแนวทางการเลือกใช้งานในโครงงานก่อสร้างที่ต่างกัน
(https://soiltest.asia/wp-content/uploads/2024/08/Seismic-Integrity-Test.png)
📢🥇🦖ฐานรากลึกเป็นยังไง?
ฐานรากลึกเป็นส่วนขององค์ประกอบที่ถ่ายโอนน้ำหนักของตึกหรือสิ่งปลูกสร้างลงไปยังชั้นดินหรือชั้นหินที่มีความแข็งแรงเพียงพอ โดยอยู่ลึกกว่ารากฐานตื้น (Shallow Foundation) โครงสร้างรองรับลึกเหมาะกับโครงการที่อยากได้รองรับน้ำหนักมากมาย หรือในพื้นที่ที่ชั้นดินด้านบนอ่อนตัว อย่างเช่น ดินเลน ดินปนทรายหละหลวม หรือพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ
👉⚡🌏ชนิดของรากฐานลึก
โครงสร้างรองรับลึกสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายหมวด ขึ้นอยู่กับรูปแบบของการก่อสร้างแล้วก็การถ่ายโอนน้ำหนัก โดยประเภทที่พบบ่อยในงานวิศวกรรม ได้แก่:
-------------------------------------------------------------
ให้บริการ รับเจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Soil Test บริการ รับเจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน
ทดสอบความสมบูรณ์ของเสาเข็ม (https://www.seono1.co/webboard/index.php?topic=313128.0) (Seismic Integrity Test)
👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 Website: เจาะสํารวจดิน (https://groups.google.com/g/review-summary/c/LIMnQCYGYdI)
👉 Map: เส้นทาง (https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97+%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%B8%8B%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97+%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA+%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B9%8C+%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87+%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94/@13.7902491,100.8023117,20z/data=!4m6!3m5!1s0x311d65ebcb9daa09:0xd54db9a93b473980!8m2!3d13.7902458!4d100.8023299!16s%2Fg%2F11h7b1b_m2?entry=ttu&g_ep=EgoyMDI1MDQxNi4xIKXMDSoASAFQAw%3D%3D)
-------------------------------------------------------------
1. เสาเข็ม (Pile Foundation)
เสาเข็มเป็นโครงสร้างรองรับลึกที่ใช้กันอย่างล้นหลาม โดยมีลักษณะเป็นเสาที่ตอกหรือเจาะลงไปในดินเพื่อถ่ายโอนน้ำหนักของโครงสร้างลงสู่ชั้นดินที่แข็งแรง เสาเข็มแบ่งได้ 2 จำพวกหลัก:
เสาเข็มตอก (Driven Piles):
ติดตั้งโดยการตอกเสาเข็มลงไปในดิน เหมาะกับพื้นที่ที่อยากได้ความรวดเร็วแล้วก็ลดทุน แต่ว่าการตอกเสาเข็มอาจจะก่อให้กำเนิดแรงสั่นต่ออาคารใกล้เคียง
เสาเข็มเจาะ (Bored Piles):
ติดตั้งโดยการขุดหรือเจาะหลุมแล้วใส่คอนกรีตเสริมเหล็กลงไป เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ปรารถนาลดผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน อย่างเช่น ใกล้กับอาคารที่มีโครงสร้างหวั่นไหว
2. ฐานเข็มเจาะ (Drilled Shaft Foundation)
ฐานเข็มเจาะ หรือที่เรียกว่า Caisson เป็นโครงสร้างรองรับลึกที่ติดตั้งโดยการเจาะหลุมขนาดใหญ่ลงไปในดินหรือหิน แล้วใส่คอนกรีตลงไปเพื่อสร้างฐานราก วิธีนี้เหมาะสำหรับโครงการที่จำต้องรองรับน้ำหนักมากมาย ได้แก่ สะพาน หรืออาคารสูง โดยมีคุณลักษณะเด่นก็คือความแข็งแรงและก็ความรู้ความเข้าใจในการรับน้ำหนักที่สูง
3. รากฐานแบบเสาเข็มรวม (Pile Group Foundation)
ในบางแผนการอาจต้องใช้เสาเข็มหลายต้นรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงสำหรับเพื่อการรับน้ำหนัก โดยฐานรากแบบนี้มักใช้ในส่วนประกอบที่มีน้ำหนักกระจายตัว ดังเช่นว่า โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างสะพาน
4. ฐานรากลึกประเภทฝัง (Embedded Foundation)
ฐานรากจำพวกนี้ถูกฝังไว้ใต้ดินรวมทั้งเชื่อมโยงกับโครงสร้างด้านบน เหมาะกับแผนการก่อสร้างในพื้นที่ที่ต้องการลดผลกระทบจากการเคลื่อนของดิน ดังเช่น อาคารที่ตั้งอยู่ภายในเขตพื้นที่ลาดชัน
5. รากฐานลึกพิเศษ (Specialized Deep Foundations)
ในบางครั้งบางคราวที่ส่วนประกอบมีความซับซ้อน ดังเช่น ในพื้นที่แผ่นดินไหวหรือในทะเล ฐานรากลึกพิเศษ ดังเช่นว่า เสาเข็มแบบคอนกรีตอัดแรงหรือรากฐานแบบใต้ทะเล จะถูกนำมาใช้งาน
✨🌏🛒การเลือกรากฐานลึกให้เหมาะสม
การเลือกฐานรากลึกที่เหมาะสมกับโครงการก่อสร้างขึ้นกับหลายต้นสายปลายเหตุ เช่น:
1. สภาพดินในพื้นที่
การสำรวจชั้นดินในพื้นที่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้รู้ถึงคุณสมบัติของดิน ยกตัวอย่างเช่น ความแข็งแรง ความลึกของชั้นดินแข็ง แล้วก็ระดับน้ำใต้ดิน ซึ่งจะเป็นตัวระบุชนิดรากฐานที่สมควร
2. รูปแบบของโครงสร้าง
น้ำหนักรวมทั้งรูปแบบขององค์ประกอบ ยกตัวอย่างเช่น อาคารสูง สะพาน หรือโครงสร้างใต้น้ำ จะมีผลต่อการเลือกฐานรากลึก ถ้าโครงสร้างมีน้ำหนักมากมาย ควรต้องใช้ฐานรากที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ดิบได้ดี อย่างเช่น ฐานเข็มเจาะหรือฐานรากแบบเสาเข็มรวม
3. ข้อจำกัดทางกายภาพ
ในพื้นที่ที่มีความจำกัด เป็นต้นว่า พื้นที่แคบ หรือใกล้กับตึกอื่น รากฐานแบบเสาเข็มเจาะจะสมควรกว่า เพราะลดผลพวงจากแรงสั่นสะเทือน
4. สภาพแวดล้อมและปัจจัยภายนอก
สภาพแวดล้อม อาทิเช่น การกัดเซาะของน้ำ หรือการเกิดแผ่นดินไหว เป็นสาเหตุที่จำต้องใคร่ครวญในการออกแบบและก็เลือกรากฐานลึก
👉👉👉ข้อดีรวมทั้งข้อจำกัดของโครงสร้างรองรับลึกประเภทต่างๆ
จุดเด่นของรากฐานลึก
-รองรับน้ำหนักได้มาก
-ลดปัญหาด้านการยุบขององค์ประกอบ
-ใช้งานได้ในภาวะดินหลายชนิด
-เพิ่มความมั่นคงให้กับองค์ประกอบในพื้นที่เสี่ยง
ข้อกำหนดของฐานรากลึก
-กระบวนการติดตั้งซับซ้อน
-ใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง
-อยากได้การสำรวจและก็ออกแบบที่ถูกต้อง
🥇✅🦖แบบอย่างการใช้แรงงานฐานรากลึกในแผนการจริง
อาคารสูงในเขตเมือง:
อาคารสูงในเมืองใหญ่ปรารถนาโครงสร้างรองรับลึกเพื่อรองรับน้ำหนักรวมทั้งลดผลกระทบจากแรงสะเทือน รากฐานแบบเสาเข็มเจาะจึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม
สะพานผ่านแม่น้ำ:
สะพานต้องการโครงสร้างรองรับลึกที่สามารถรองรับแรงกดดันจากน้ำแล้วก็การกระตุกกระเทือน ฐานเข็มเจาะขนาดใหญ่จึงถูกเลือกใช้
โครงสร้างในสมุทร:
โครงงานก่อสร้างในสมุทร ดังเช่นว่า แท่นขุดน้ำมัน ใช้รากฐานแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อต้านทานแรงจากคลื่นและก็สายน้ำ
✅🦖📌บทสรุป
โครงสร้างรองรับลึก มีหลากหลายประเภทที่สามารถประยุกต์งานให้เหมาะสมกับลักษณะของแผนการก่อสร้างและก็ภาวะดินในพื้นที่ การเลือกฐานรากที่สมควรไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับองค์ประกอบ แม้กระนั้นยังช่วยลดการเสี่ยงและรายจ่ายในระยะยาว การพิเคราะห์ปัจจัยต่างๆดังเช่นว่า สภาพดิน น้ำหนักของส่วนประกอบ และก็ความจำกัดทางด้านกายภาพ ก็เลยเป็นขั้นตอนสำคัญในการวางแบบรากฐานลึก
รากฐานลึกที่เลือกใช้อย่างเหมาะควรจะช่วยทำให้โครงสร้างมีความแข็งแรง แข็งแรง รวมทั้งสามารถรองรับการใช้งานในระยะยาวได้อย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็นโครงการในพื้นที่ดินอ่อน พื้นที่อุทกภัย หรือแม้กระทั้งโครงการในทะเล ฐานรากลึกจะยังคงเป็นหัวใจสำคัญของงานวิศวกรรมในทุกช่วง