ถ้าหากว่าผู้ใดที่กำลังเป็นไวรัสตับอักเสบอยู่ ต้องมีแนวทางการดูแลตนเองมากยิ่งขึ้นกว่าคนอื่น กระทั่งการประพฤติตัวที่จำต้องครัดเคร่งมากกว่าเดิม รวมกระทั่งการดูแลตนเองเมื่อเป็นไวรัสตับอักเสบควรที่จะกระทำอย่างไรบ้างนั้นพวกเราไปดูกันเลย (https://www.rophekathailand.com/wp-content/uploads/2021/03/%E0%B8%88%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD-%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%9A-%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.webp) วิธีการป้องกันโรค ไวรัสตับอักเสบ1.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายบ่อยๆไม่ได้พูดว่าว่าคุณจำต้องบริหารร่างกายอย่างหักโหม แต่ว่าควรที่จะเลือกกายบริหารเบาๆอย่างเช่น การเดินระยะทางที่พอสมควร เป็นการเดินเรื่อยๆมากกว่าการวิ่งนั่นเอง 2.พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนอย่างพอดีนั้นเป็นปัจจัยหลักสำหรับท่านที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบ เพราะว่าความเครียดกระทั่งการนอนน้อยเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้อาการหนักขึ้นได้ 3.งดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ชัดเจนอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ทั้งหมดเป็นตัวการทำลายสุขภาพของตับ ถ้าว่าคุณเข้าใจว่าตนเองเป็นโรคเชื้อไวรัสตับอักเสบแต่ว่ายังไม่ลด ละ เลิกสำหรับการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อีก เซลล์ตับที่อ่อนแออยู่แล้วหลังจากนั้นก็จะยิ่งถูกทำให้หมดสภาพได้เร็วมากขึ้น 4.แจ้งหมอทุกครั้งถ้าหากมีการทานยาโรคประจำตัว ในการรักษาตัวเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบ ถ้าหากคุณมีโรคประจำตัวหรือทานอาหารเสริมอยู่ก่อนแล้ว คุณต้องแจ้งให้แพทย์รู้ทุกครา เนื่องจากว่ายาบางประเภทไม่สามารถทานคู่กันได้ เพราะฉะนั้นจะต้องทำการแจ้งแพทย์รวมทั้งนำยาที่รับประทานอยู่เป็นประจำ ไปให้แพทย์ที่ทำงานรักษาได้รับรู้ เพื่อจัดยาให้ไม่กระทบกับยาประจำที่บริโภคอยู่นั่นเอง เพียงเท่านี้การรักษาโรคเชื้อไวรัสตับอักเสบ (https://www.rophekathailand.com/post/l/hepheka/hepatitis-b-how-you-know)ก็จะสามารถกระทำการรักษาได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ด้วยว่าการดูแลตนเองนั้นจำเป็นอย่างมาก หากคุณละเลยอาจจะก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวก็ได้