(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/04/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-696x364.jpg)1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง
อาจจะเป็นการสอบถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความปรารถนาดีและก็เอาใจใส่ในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำสุภาพ เหมาะสม รวมทั้งนุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นยังไงบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา
ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งค่ะ" การใช้ความเป็นกันเองจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่ อ น คลายแล้วก็เป็นมิตรด้วยนะคะ อีกเรื่องคืออวัจนะภาษาจ้ะ กิริยาท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก
มาระหว่างดวงตาพวกเราหรือการสัมผัสบางอย่างตัวอย่างเช่น การสัมผัสไหล่เพื่อให้แรงใจ การจับมือเพื่อปลอบประโลมปะโลม ปรบมือให้เพื่อให้กำลังใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้คุณและก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
2. ฝึกฝนกล่าว คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"
เนื่องจากคำว่า"ไม่" มันบอกให้ดูดีย า ก พูดบอกความหมายเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจคนอื่นๆ แสดงถึงความไม่พึงพอใจในตัวเขาหรืองานของเขา หลายๆคนใช้คำนี้กระทั่งเคยตัวซึ่ง
ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะจ้ะ อย า กให้ทดลองแปลงวิธีใช้มันดูนะคะ ตัวอย่างเช่น "ลองทำแบบนี้ดูดีไหม" "แบบนี้ก็ดีนะ ถ้าเกิดเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณมีความรู้สึกว่าจะคืออะไรคะ" มีความหมายว่า พวกเราไม่ได้ปฏิเสธความคิดของอีกข้างแม้กระนั้นลองเสนอแนะเสริมเติมเสมือนการชี้แนะเขา
3. มองให้ได้ 3 มุม
การพูดเป็นดังดาบ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"สิ่งเดียวบางทีอาจไม่พอ คุณจะต้องฝึกหัดกรรมวิธีการการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะและก็วิเคราะห์ไปพร้อมๆกันด้วยค่ะ
ดูว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนยังไง เรื่องไหนควรจะกล่าว เรื่องไหนไม่สมควรพูด แม้กระนั้นที่สำคัญไปมากกว่านั้น ทุกคราวถ้าเกิดจะมีการตำหนิ ตัดเตือน ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดของงาน ให้ทดลองมองให้ได้ 3 มุม
1. มุมของพวกเรา : เรามองว่าอย่างไร ในตำแหน่ง หน้าที่เรา เราควรจะมองดูแบบไหน ไขปัญหายังไง
2. มุมของเค้า : ถ้าหากเราเป็นเค้าพวกเราจะทำอย่างไร ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนอย่างงี้เช่นกันเราจะรู้สึกเช่นไร แล้วพวกเราจะขจัดปัญหานั้นแบบไหน
3. มุมของบุคคลที่3 หรือผู้อื่นที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน ปัญหาก็คืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จึงควรทะเลาะกันเลยแบบนั้นหรือ วิวาทด้วยประเด็นนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น
ถ้าหากคุณดูให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด เข้าใจเค้า เข้าใจพวกเรา เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดมากยิ่งขึ้น
4. อย่าติเตียนคนไหนกัน ซึ่งๆหน้าบุคคลอื่น
ไม่มีผู้ใดชอบการเช็ดกตำหนิจ้ะ เราก็ด้วยเหมือนกันใช่ไหมล่ะค่ะ ยิ่งโดนด่าซึ่งๆหน้าผู้อื่นด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ โกรธแค้นแสนร้ายแรงเสียเหลือเกินจริงๆการดุคนใดกันแน่เฉพาะหน้าผู้อื่นมันเป็นการตั้งอกตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังยับจำพวกที่เรียกว่า
คนที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปจนวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็ความเกี่ยวเนื่องระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันที ในที่สุดแล้วไม่มีฝ่ายไหนชนะ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากการทำแบบงี้จ้ะ ด้วยเหตุดังกล่าวแล้วถ้าเกิดไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลกระทบต่อส่วนกลางแนะนำว่าไม่ควรทำอย่างมากจ้ะ
5. มีนายช่างชม
ชมเมื่อเค้าทำดี ปฏิบัติงานเจริญ ช่วยเหลือผู้อื่น มีผลงานที่ดี กระทำตัวดี คุณก็ควรจะดูเค้าด้วยความเต็มใจที่ประสงค์ดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี ใบหน้าปลื้มปิติพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย เนื่องจากว่าสิ่งกลุ่มนี้มีผลต่อความรู้สึกมากนะคะ คนที่ถูกชมเค้าจะราวกับได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดียิ่งๆขึ้นไป
การมีนายช่างชมที่ดีนั้น ไม่จำเป็นจะต้องดูที่ผลงานของเค้าแค่นั้นค่ะ อย า กให้ลองชมความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความมีน้ำใจ ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ชมเครื่องแต่งกาย
ดูยานพาหนะ ดูกระเป๋าสำหรับถือเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสำราญให้เค้าได้แล้ว และเค้าจะเกิดภูมิใจกำเนิดความมั่นใจในตัวเอง แล้วเขาจะรักพวกเรา ถึงแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธเราจ้ะ ลองดูนะคะ
6. อย่ารั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง
บางคนเข้าใจผิดว่าการบอก"รั ก ษ า น้ำใจ"เป็นการพูดในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อเค้ากระปรี้กระเปร่า แล้วก็บางคราวคนเรา ก็ถูกใจที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตน)มากยิ่งกว่ารั ก ษ า น้ำใ
จึงเลือกบอกไปในสิ่งที่มันไม่จริงด้วยเหตุว่ากลัวว่าหากพวกเราพูดเรื่องจริงไป"เราจะดูไม่ดี แล้วก็บางโอกาสก็รั ก ษ า ความมีน้ำใจ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งยังการพูดอะไรที่มันไม่จริงแล้วก็ทั้งการไม่บอก
มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำจ้ะ เพราะนอกจากจะเป็นราวกับการสนับสนุนความประพฤติปฏิบัติของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงละเลิงว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกดีแล้ว
"คิดทุกคำก่อนจะพูด แต่ไม่มีความจำเป็นที่ต้องกล่าว ทุกคำที่เราคิด" น้อยเกินไปค่ะ จะต้องเลือกใช้คำที่จะบอกให้สมควรด้วย
7. เจอปัญหาที่จำต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตกลงใจ" บางสิ่งบางอย่างแล้วพวกเรายังไม่แน่ใจ ตอบยังไงให้ดูดี
ถ้าหากควรจะมีการตอบคำถามที่เป็นคำถามปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรหรือเปล่าควรจะ ดีไหมดี คุณคิดอย่างไร จำต้องทำเช่นไร พบปัญหาเหล่านี้แล้วพวกเราไม่เคยทราบหรือเปล่าแน่ใจในคำตอบ
สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือถ้าพวกเราไม่ตอบ พวกเราก็มองแ ย่ ถ้าเราตอบแล้วตอบผิด ก็ดูแ ย่ ไม่แพ้กัน ฉะนั้นช่องทางของเราให้พวกเราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่ตรงนี้ค่ะ
⁃ คำตอบของคุณจำเป็นต้องไม่ไปพาดพิงผู้ใดกันแน่ ไม่เป็นการติเตียนใครกันแน่
⁃ ใช้เหตุมีผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบมากขึ้นเรื่อยๆ ตอบช้าๆได้จ้ะ ช่างเถิด เบาๆใช้ความคิด ตอบอย่างมีสติสัมปชัญญะ ระบุถึงเหตุผลความเป็นมาให้กระจ่าง
⁃ คุณสามารถชี้แจงได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากๆเลยนะ เลยอย า กแนะนำให้ลองขอความเห็นทาง... จะได้คำตอบที่มั่นใจกว่านะคะ" นี่คือการปฏิเสธแบบรั ก ษ า น้ำใจ
⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ พินิจมุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งค่ะ" แต่กรณีนี้เราจะต้องมีการเติมข้อคิดเห็นของเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้รู้สึกได้ว่าเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่
⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ฉันทราบแต่เพียงว่า... ส่วนที่เสริมเติมจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"
"วิธีบอกอย่างไรให้คู่รักนี้" ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะมีประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ แล้วก็ขอขอบคุณมากจากดวงใจที่อ่ า น มันจนกระทั่งบรรทัดนี้ แต่สิ่งนี้คงเป็นไปได้เพียงคำเสนอแนะสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเท่านั้น ถ้าเกิดคุณไม่ลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด (https://freelydays.com/13493/)
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/