(https://freelydays.com/wp-content/uploads/2023/03/%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3-696x364.jpg)
ยิ่งลูกโตขึ้น การที่เราจะหวังลูกให้เป็นเด็ กเชื่อฟังสอนง่าย เกิดเรื่องย ากมากมาย เพราะเหตุว่าลูกเริ่ม
มีความคิดเป็นของตัวเอง บางเวลาก็พอใจสิ่งที่อยู่ข้างหน้ามากกว่า
บางครั้งลูกก็ไม่อย ากคุย ไม่อย ากทำในสิ่งที่พ่อแม่ปรารถนาสักเท่าไรนัก
ด้วยเหตุนี้ก็เลยใช้ขั้นตอนการทำหูทวนลม นิ่งเฉยต่อคำบอกเล่าของพ่อแม่ และมันบางทีอาจเอามาสู่ การมีปัญหากันได้
1. กล่าวหาอะไร ที่ทำให้เขาไม่เชื่อฟัง (https://freelydays.com/12945/)
ถ้าลูกเป็นเด็ กที่ไม่เชื่อฟัง ครั้งคราวอาจเกิดจากกำลังโก รธ เศร้าใจ
หรือต้องการให้บิดามารดาเอาใจ สิ่งที่ควรจะทำ คือ คุยแล้วก็ หาคำตอบ ว่าเพราะเหตุใดทำไม
ลูกไม่เชื่อฟังและบอ กรักลูกให้ลูกไว้ว่า มีพ่อแม่อยู่ด้านข้างเสมอนะ
และก็ทั้งนี้พึงสังเกตทัศนคติวิธีคิดด้วย รวมถึงการพูดของลูก ก็เพื่อจะเข้าใจลูกเยอะขึ้นด้วยนั่นเอง
2. สอนด้วยการ ใช้เทคนิคแบบเข้าใจง่ายๆ
เพราะเหตุว่าเด็ กอาจจะยังแบบว่า ฟังประโยคย าวๆพร้อมไม่เข้าใจ สิ่งที่ควรจะทำนั้นคือ
ใช้เคล็ดลับสอนเขา ให้จำง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น มีมือเอาไว้ช่วย ไม่ใช่เพื่อเอาไว้ตำหนิ หรือ กล่าวให้ตื่นเต้น
อย่างเช่น วันนี้ทำอะไรที่โรงเรียนบ้ าง หลี กเลี่ ยงคำว่า ไม่ หรือ ห้าม เพราะว่าทำให้ลูก
ไม่อย ากทำต าม ได้แก่ ห้ ามดื้อ ก็ควรจะกลายเป็น แม่ถูกใจลูก ในระหว่างที่เชื่อฟังแม่ที่สุดเลยจ้า
ยิ่งไปกว่านี้ พ่อแม่อาจเปลี่ยนแปลงมาใช้การให้ค่ะแน น เพื่อลูกมีเป้าหมาย ในการเชื่อฟังมากเพิ่มขึ้นก็ได้นะ
3. สอนด้วยคำกล่าว สายตาที่ความรัก
เมื่อไรที่ลูกทำผิด คุณอาจจะทนไม่ไหวที่จะตะคอ กลูก จากคำพูดแร งๆของคุณ
อีกทั้งไม่สนใจฟังในสิ่งที่ลูกอย ากอธิบายด้วย และการขึ้นเสียง การตะคอ กนั้นมันอาจจะทำให้
ลูกสงบลงได้ก็จริงนะ แต่ในอนาคต ลูกก็จะทำอีกอยู่ดี โดยเหตุนี้แล้ว สิ่งที่ควรจะทำ คือ เริ่มจากดึงความพึงพอใจ
ลูกด้วยการ เรียกชื่อลูกใช้คำบอกเล่าง่ายๆให้ลูกทวนในสิ่งที่ทำ ใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ว่าไม่ดุดัน
ให้คุณทดลองเปลี่ยน เป็นบอ กทางป้องกั น แก้ไขปัญหาจะดีมากยิ่งกว่านะ นอ กจากคำบอกเล่ากับน้ำเสียงแล้ว
ภาษากาย ก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกรับฟังมากยิ่งขึ้น พูดกับเขาดีๆกล่าวด้วยสายตาแห่งความรัก แล้วคุณจะเข้าใจลูกมากขึ้นเรื่อยๆ
4.ฟังสิ่งที่ ลูกจะบอก
ด้วยเหตุว่าบางครั้งบางคราว สิ่งที่บิดามารดาคิด มันก็มิได้ถูกเสมอไปหรอกนะ เพราะเด็ กแต่ละคน
พวกเขาก็มีความคิดเป็นของตนเอง และก็สิ่งที่ควรทำ คือ ถามให้รู้ดีว่าลูกคิดอะไรทำไปเพื่ออะไร
และมีอะไรอยู่ในใจ แล้วจงตั้งใจฟังสิ่งที่ลูกพูด เพื่อช่วยทำให้ลูกผ่อ นคล า ยความรู้สึกไม่สบายใจได้
5. สอนด้วย การมีข้อตกลง ระหว่างกัน
แต่นะเด็ กทุกคน ก็มีอะไรที่ถูกใจ ที่เกลียดของตัวเองเช่นกันนะ แล้วก็หลายครั้ง ที่คุณให้ลูก
ทำสิ่งที่เกลียดชัง นานจนถึงลูกเริ่มไม่เชื่อฟัง รวมทั้งสิ่งที่ควรจะทำนั้นเป็นเด็ กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยที่การต่ อต้ าน
ด้วยเหตุดังกล่าว ทดลองให้ข้อเสนอ เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันดูสิ เพื่อลดการเถียงหรือการเชิญชวนสมุทร า ะลงได้
6. สอนลูก จากการเป็นแบบอย่ าง
ในตอนวัยเด็ ก เขาชอบลอ กเอาอย่าง พฤติก ร ร มของคนสนิท
และไม่สามารถจำแนกได้ ว่าอะไรไม่ควร อะไรควรจะ มันก็เลยทำให้หลายทีลูกเผลอเลียน พฤติก ร ร ม
ที่มันไม่ดีของผู้ใหญ่ เมื่อถูกว่ากล่าวรวมทั้งว่ากล่าวลูกจึงไม่รู้เรื่องว่า เพราะเหตุไรบิดามารดายังทำได้เลยล่ะ
และก็กระบวนการทำให้ลูกเกิดความสงสัย แล้วก็พ่อแม่ไม่ชี้แจงนั้น มันก็เป็นต้นเหตุ
ที่ทำให้ลูกเริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ และสิ่งที่ควรจะทำนั้น คือ ลูกเรียนรู้จาก
พฤติกรรมได้ดีกว่าคำพูด เพราะถ้าเช่นนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่ างให้ลูกเห็น ว่าอะไรทำเป็น อะไรไม่สมควรที่จะทำ
7. สอนลูก ใช้ความคิด แก้ไขปัญหาด้วยตัวเองได้
เนื่องจากประโยคคำบัญชานั้น มันก็ทำให้ลูกมีความคิดว่า ตัวเองไม่ได้เรื่องเอาซะเลยจ้า
ทำอะไรก็ไม่ดี ดังนี้มันก็มีผลต่อให้ลูกปราศจากความเชื่อมั่นในตัวเองซะงั้น ทั้งยังอาจเปลี่ยนเป็นคนยังคลุมเคลือไปเลย
ไม่กล้าที่จะคิดเริ่มอะไรใหม่ๆสิ่งที่ควรจะทำนั้นหมายถึงต้องฝึกให้ลูกใช้สมองและก็ไขปัญหาด้วยตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น ไหนลูกลองคิดสิว่าจะเอาตุ๊กต าตัวนี้ ไปเก็บไว้ไหนดีนะ รวมทั้งยิ่งกว่านั้นควรหา
กิจก ร ร มบันเทิงใจๆทำร่วมกันกับลูกเมื่อคุณพ่อคุณแม่ เห็นลูกทำไม่ถูกต้อง
จะได้สอนลูกให้คิดขจัดปัญหา แทรกเรื่องของคุณความดี ศีลธรรมไปได้ด้วย โตมาเขาจะได้เป็นคนมีคุณภาพ
เชื่อฟัง
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/12945/